| เช็คสถานะสินค้า |รถเข็น (0)
| สมัครสมาชิกผู้ซื้อ
| แจ้งปัญหาการใช้งาน
เข้าสู่ระบบ



แสงแดด ทิศทางลม กับการออกแบบ

แนวแกนโคจรของดวงอาทิตย์ในแต่ละช่วงเวลาแตกต่างกัน มีผลต่อแสงแดดที่ต่างกันออกไปในแต่ละช่วงเวลา    

ประเทศของเรา แบ่งเป็น 3  ฤดูหนาว ฤดูฝน ฤดูร้อน

 

แสงแดดในช่วงฤดูหนาว

ในช่วงฤดูหนาวตั้งแต่เดือนธันวาคม เป็นช่วงเวลาที่ดวงอาทิตย์โคจรอ้อมไปทางทิศใต้มากที่สุด ดังนั้นในช่วงเช้า ผนังบ้านทางทิศตะวันออก และทางทิศใต้จะได้รับความร้อนจากแสงแดดในปริมาณมากในเวลาเดียวกัน ต่อมาในช่วงสาย ดวงอาทิตย์เคลื่อนตัวสูงขึ้นหลังคาบ้านจึงได้รับความร้อนจากแสงแดดมากขึ้น ในขณะที่ผนังทางทิศใต้ยังคงได้รับความร้อนจากแสงแดดอยู่ จนถึงช่วงบ่ายอาทิตย์เคลื่อนตัวมาทางทิศตะวันตกผนังบ้านทางทิศตะวันตกจึงได้ รับความร้อนจากแสงแดดเพิ่มมากขึ้น รวมถึงผนังบ้านทางทิศใต้ยังคงได้รับความร้อนจากแสงแดดอยู่ตลอดเวลา และได้รับปริมาณความร้อนจากแสงแดดอย่างเต็มที่ในช่วงเย็น สำหรับผนังบ้านทางทิศเหนือได้รับความร้อนจากแสงแดดระหว่างวันในปริมาณที่น้อย

 

แสงแดดในช่วงฤดูร้อน

โดยในช่วงฤดูร้อนซึ่งอยู่ในช่วงเดือนมีนาคม ถึงพฤษภาคม เป็นช่วงเวลาที่ดวงอาทิตย์โคจรใกล้โลกมากที่สุด เป็นช่วงที่อุณหภูมิเฉลี่ยค่อนข้างสูงในรอบปี โดยลักษณะการโคจรของดวงอาทิตย์มีการโคจรแนวแกนทิศตะวันออกมายังทิศตะวันตก ดังนั้นในช่วงเช้า ผนังบ้านทางทิศตะวันออกจะได้รับความร้อนจากแสงแดดในปริมาณมาก ต่อมาในช่วงสาย ดวงอาทิตย์เคลื่อนตัวสูงขึ้น หลังคาบ้านจึงได้รับความร้อนจากแสงแดดมากขึ้น จนถึงช่วงบ่ายดวงอาทิตย์เคลื่อนตัวมาทางทิศตะวันตก บ้านทางทิศตะวันตกจึงได้รับปริมาณความร้อนจากแสงแดดอย่างเต็มที่ในช่วงเย็น สำหรับผนังบ้านทางทิศเหนือ และทิศใต้ได้รับความร้อนจากแสงแดดระหว่างวันในปริมาณที่น้อย

แสงแดดในช่วงฤดูฝน

ในช่วงฤดูฝนตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นช่วงเวลาที่ดวงอาทิตย์โคจรอ้อมไปทางทิศ เหนือมากที่สุด ดังนั้นในช่วงเช้า ผนังบ้านทางทิศตะวันออกจะได้รับความร้อนจากแสงแดดในปริมาณมาก รวมถึงผนังบ้านทางทิศเหนือจะได้รับความร้อนจากแสงแดดบางส่วนในเวลาเดียวกัน ต่อมาในช่วงสาย ดวงอาทิตย์เคลื่อนตัวสูงขึ้น หลังคาบ้านจึงได้รับความร้อนจากแสงแดดมากขึ้น จนถึงช่วงบ่ายดวงอาทิตย์เคลื่อนตัวมาทางทิศตะวันตก ผนังบ้านทางทิศตะวันตกจึงได้รับความร้อนจากแสงแดดเพิ่มมากขึ้น รวมถึงผนังบ้านทางทิศเหนือจะได้รับความร้อนจากแสงแดดบางส่วนในเวลาเดียวกัน และได้รับปริมาณความร้อนจากแสงแดดอย่างเต็มที่ในช่วงเย็น สำหรับผนังบ้านทางทิศใต้ได้รับความร้อนจากแสงแดดระหว่างวันในปริมาณที่น้อย

 

ในช่วงเวลาพักผ่อนที่บ้าน เราจะมีมุมโปรดใช้เป็นมุมนั่งเล่น นอนเอกเขนก มุมนี้มักเป็นมุมที่ร่มรื่นด้วยร่มของเงาต้นไม้ อากาศถ่ายเทดีและสะดวก เราจะนั่งอ่านหนังสือ นั่งเล่น นอนเล่นได้อย่างสบาย

 

จะเห็นได้ว่าตำแหน่งของห้องมีความสัมพันธ์กับทิศอย่างมาก เนื่องจากตัวแปรหลัก 2 ตัว ดังนี้

 

1. ทิศทางของแสงแดด แสงแดดเป็นที่มาของความร้อน ถ้าต้องการให้บ้านเย็นสบายก็ต้องลดความร้อน ป้องกันแสงแดดให้เข้าสู่ตัวบ้านให้น้อยที่สุดเป็นที่รู้กันดีว่าพระอาทิตย์จะขึ้นทางทิศตะวันออกและจะตกทางทิศตะวันตก แต่ท่านทราบหรือไม่ว่าการโคจรของพระอาทิตย์จะอ้อมไปทางทิศใต้ในมุมแดดที่ค่อนข้างต่ำ เป็นเวลา 8-9 เดือน ช่วงที่เหลืออีก 3-4 เดือนที่พระอาทิตย์จะอ้อมไปทางทิศเหนือ ในมุมแดดที่สูง หรืออธิบายได้ง่ายๆ ว่า ห้องที่อยู่ทิศเหนือจะเย็นสบายกว่าห้องทางทิศใต้ เนื่องจากได้รับอิทธิพลความร้อนน้อยกว่า กันแดดได้ง่ายกว่านั่นเอง

2. ทิศทางของกระแสลม ทิศทางของลมประจำถิ่นของบ้านเรานั้นมีอยู่ด้วยกัน 2 ทิศทางหลักๆ คือ ในช่วงประมาณเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม จะเป็นลมมรสุมฤดูร้อนพัดมาทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ และในช่วงประมาณเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ จะเป็นลมฤดูหนาวพัดมาทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ สำหรับในเมืองซึ่งมีสิ่งก่อสร้าง ตึกสูงจำนวนมาก อาจทำให้ทิศทางกระแสลมมีความแปรปรวนได้ สามารถสรุปได้ง่ายๆได้ว่า ในช่วงฤดูร้อนลมจะพัดมาทางทิศใต้เป็นหลัก ส่วนในช่วงฤดูหนาวลมจะพัดมาทางทิศเหนือ ดังนั้นควรเน้นการเจาะช่องลมเข้าในทิศใต้และทิศเหนือของบ้านเป็นหลัก

Cradit: HOME CARE Vol. 30

 

Write by : TTOPICAL Fre








ดู 26 | เริ่ม 2 ธ.ค. 2556 23:32:39 | IP 124.122.89.2xx