| เช็คสถานะสินค้า |รถเข็น (0)
| สมัครสมาชิกผู้ซื้อ
| แจ้งปัญหาการใช้งาน
เข้าสู่ระบบ



การใช้ประโยชน์จากลมธรรมชาติกับพื้นที่ภายในบ้าน กับงานออกแบ

การใช้ประโยชน์จากลมธรรมชาติกับพื้นที่ภายในบ้าน

การ ปรับปรุงบ้านพักอาศัยให้มีความน่าอยู่ สุขสบาย และประหยัดพลังงาน มีหลักการที่สำคัญหลักการหนึ่งก็คือการใช้ประโยชน์จากลมธรรมชาติ ดังนั้นเราจึงควรที่จะมีความเข้าใจเกี่ยวกับธรรมชาติของลมในเมืองไทยเสีย ก่อนจึงจะทำให้ทราบว่า ลมธรรมชาติดีอย่างไร และจะใช้ประโยชน์จากลมธรรมชาติได้อย่างไร
ธรรมชาติของลมในเมืองไทย
ทิศทางลมตลอดปีของประเทศไทยมีทิศทางที่ชัดเจนด้วยกัน 2 ทิศทางหลัก คือ ลมประจำช่วงฤดูร้อนและฤดูฝน จะมีกระแสลมแรงพัดเข้าทางทิศใต้และทิศตะวันตกเฉียงใต้เป็นระยะเวลาประมาณ 8 เดือน (ก.พ.-ก.ย.) และลมประจำช่วงฤดูหนาวจะพัดเข้ามาทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นลมเย็นและแห้งพัดเข้าในช่วงฤดูหนาวเป็นเวลาประมาณ 4 เดือน (ต.ค.- ม.ค.)
เมืองไทยตั้งอยู่ในเขตร้อนชื้น ลักษณะของลมที่พัดมาส่วนใหญ่จึงมีความชื้นปะปนเข้ามาในปริมาณค่อนข้างสูง ค่าความชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ยตลอดปีประมาณ 75 %
ความเร็วลมเฉลี่ย มีความเร็วพอสมควร อย่างเช่นในกรุงเทพฯ ประมาณ 2-5 กม./ชม. ปริมาณความเร็วลมในแต่ละภาคจะแตกต่างกันออกไป โดยภาคใต้และภาคตะวันออกจะได้รับอิทธิพลของลมประจำถิ่น (ลมบก/ลมทะเล) และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้เกือบทั้งปี ความเร็วลมเฉลี่ยค่อนข้างสูงตามแนวชายฝั่งประมาณ 8-10 กม./ชม. ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะได้รับอิทธิพลจากมรสุมตะวันออกเฉียง เหนือและตะวันตกเฉียงใต้ ทำให้เกิดความแตกต่างของอุณหภูมิในช่วงฤดูหนาวและฤดูร้อนมากกว่าภูมิภาคอื่น แต่ความเร็วลมเฉลี่ยปกติจะต่ำกว่าภาคใต้ สำหรับภาคกลางความเร็วลมที่พัดผ่านจะมีค่าปานกลางและค่าเฉลี่ยคงที่เกือบ ทั้งปี
ลมธรรมชาติดีอย่างไร
เมืองไทยตั้งอยู่ในเขตร้อนชื้น ดังนั้นอุณหภูมิเฉลี่ยจะค่อนข้างสูงตลอดปี เช่น อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยในกรุงเทพฯ ประมาณ 33 ํC ขณะที่อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ประมาณ 28 ํC หรือบางจังหวัดในฤดูร้อนอาจสูงเกือบ 40 ํC เลยทีเดียว ในขณะที่ขอบเขตสภาวะที่ทำให้เรารู้สึกสบายจะมีอุณหภูมิอยู่ในระหว่าง 22-27 ํC และมีค่าความชื้นสัมพัทธ์อยู่ระหว่าง 20-80%
กระแสลมที่พัดผ่านร่างกายของคนเราจะช่วยนำความร้อนออกจากร่างกาย โดยการระเหยกลายเป็นไอพัดพาความร้อนและความชื้นรอบตัวเราออกไป ลมธรรมชาติหรือจากพัดลมจะช่วยเร่งการระบายความร้อนออกจากร่างกายให้กลับสู่ สภาพน่าสบายได้หากความชื้นไม่สูงเกิน จากการศึกษาอ้างอิงพบว่า เมื่อมีกระแสพัดผ่านผิวกายที่มีความเร็วเพิ่มขึ้น 1 กม./ชม. จะทำให้เรารู้สึกเย็นลงประมาณ 0.4 ํC การใช้พัดลมโดยปกติสามารถสร้างกระแสให้มีความเร็วประมาณ 10 กม./ชม. ซึ่งจะทำให้เรารู้สึกเย็นลงได้ถึง 4 ํC เลยทีเดียว
หลักการและข้อแนะนำเบื้องต้นในการใช้ประโยชน์จากลมธรรมชาติ
จะเห็นแล้วว่าลมทำให้เรารู้สึกเย็นสบายขึ้น แต่การนำลมธรรมชาติมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับบ้านอย่างมีประสิทธิภาพจะต้อง คำนึงถึงหลักการสำคัญ ดังนี้
1. การทำให้กระแสลมพัดเข้ามาในบ้าน
เป็นหลักสำคัญสำหรับบ้านที่ต้องการระบายอากาศตามธรรมชาติ แต่อยากจะขอทำความเข้าใจเสียก่อน ในกรณีบ้านที่มีการปรับอากาศด้วยเครื่องปรับอากาศอาจเกิดผลเสียมากกว่า เนื่องจากกระแสลมที่พัดเข้ามา จะนำความชื้นเข้ามาด้วยและเครื่องปรับอากาศจะต้องใช้พลังงานมากขึ้นในการรีด ความชื้นออกจากห้อง การทำให้ลมพัดเข้ามามีข้อแนะนำคือ

การวางตัวอาคารขวางแนวทิศทางหลักของลม

สำหรับ การออกแบบบ้านหลังใหม่จะเหมาะสมหากมีการเปิดช่องหน้าต่างให้ลมพัดผ่านในแนว เหนือ-ใต้ หรือตะวันออกเฉียงเหนือ-ตะวันตกเฉียงใต้ แต่อย่าเพิ่งเสียดายสำหรับบ้านที่ไม่ได้วางตามแนวอาคารดังกล่าวและไม่สามารถ ดักลมเข้าด้วยวิธีใดก็ตาม เช่น ทาวน์เฮ้าส์ ตึกแถว เป็นต้น ในสภาพความเป็นจริงแล้ว ทิศทางของลมจะพัดมาได้ทุกทิศทางตามสภาพแวดล้อมและภูมิอากาศในแต่ละท้องถิ่น และยังมีวิธีการอื่นๆที่ช่วยให้ลมพัดผ่านเข้ามาในบ้าน

การเปิดช่องประตู-หน้าต่าง ให้ลมมีทั้งทางเข้าและออก

บ้าน ที่ไม่มีการเปิดหน้าต่างให้ลมออกจะไม่มีกระแสลมพัดผ่านเข้าไปได้เลย ถ้ามีหน้าต่างเปิดช่องทางเข้า-ออกไว้ตรงข้ามกันและขวางทิศทางหลักของลม จะช่วยทำให้ปริมาณอากาศไหลผ่านมากที่สุด

การใช้หน้าต่างบานเปิดเป็นเครื่องดักลม

หากบ้านของคุณไม่มีช่องเปิดขวางทิศทางลม ก็สามารถใช้บานหน้าต่างเปิดเป็นตัวดักทิศทางลมให้พัดเข้าไปในห้องได้เหมือนกัน

การทำช่องระบายอากาศบนหลังคาเหนือช่องเปิดโล่งหรือช่องบันได

เป็น การเพิ่มทางเข้า-ออกของลมอีกทางหนึ่ง วิธีนี้จะช่วยให้ความร้อนลอยตัวสูงขึ้นและระบายออกสู่ภายนอกได้และ (ถ้ามี) อากาศเย็นรอบบ้านก็จะเข้ามาแทนที่ช่วยให้มีอากาศถ่ายเทภายในบ้านได้มากขึ้น

หลีกเลี่ยงการวางเฟอร์นิเจอร์ในตำแหน่งที่ขวางทิศทางลม มิเช่นนั้นจะทำให้อากาศมีการระบายน้อยลงได้

2. ควบคุมคุณภาพของลมธรรมชาติ

การปรับบริเวณรอบบ้านใหม่ให้ร่มรื่นเย็นสบายและลดพื้นที่ที่เป็นคอนกรีต

เป็น การลดอุณหภูมิของกระแสลมจากสภาพอากาศภายนอก โดยให้ลมร้อนพัดผ่านบริเวณที่เย็นก่อนที่จะพัดเข้าสู่ตัวบ้าน เช่น ใต้ร่มไม้ สนามหญ้า สวนรอบบ้าน หรือแหล่งน้ำ จะทำให้ภายในบ้านได้รับลมที่มีอุณหภูมิเย็นลง

การทำความสะอาดหน้าต่าง มุ้งลวด หรือมู่ลี่อย่างสม่ำเสมอ

นอกจากจะช่วยให้อากาศพัดเข้าสู่อาคารได้อย่างเต็มที่แล้ว คุณภาพอากาศภายในจะสะอาดและดีขึ้นด้วย

การทำสภาพแวดล้อมรอบบ้านที่ดีและถูกสุขลักษณะ

จะช่วยควบคุมเรื่องกลิ่นและความบริสุทธิ์ของอากาศที่พัดเข้ามาในบ้านได้ด้วย โดยเฉพาะคำนึงถึงบริเวณที่ทิ้งขยะ

3. การลดอุณหภูมิของตัวบ้านด้วยลมธรรมชาติ
หลักการนี้จะเหมาะสมรวมถึงบ้านที่ใช้เครื่องปรับอากาศด้วยการทำช่องระบายอากาศใต้หลังคาในกรณีที่ไม่มีฉนวนกันความร้อน ช่องใต้หลังคาจะเสมือนเป็นเตาอบขนาดใหญ่ ที่เก็บสะสมความร้อนและจะถ่ายเทลงสู่ห้องใต้หลังคาได้เสมอ การให้อากาศในส่วนนี้ถ่ายเทได้ดีโดยการเปิดช่องระบายลมเพื่อระบายความร้อน ออกจากพื้นที่ใต้หลังคา จะช่วยลดอุณหภูมิให้กับบ้านได้อีกทางหนึ่ง ควรที่จะควบคุมการใช้ฉนวนกันความร้อนเหนือฝ้าเพดานจะช่วยให้การป้องกันความ ร้อนจากหลังคามีประสิทธิภาพมากขึ้น
จะเห็นว่าหากเรามีความเข้าใจ และรู้จักนำลมธรรมชาติมาใช้กับพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านได้อย่างถูกวิธี นอกจากจะช่วยเสริมให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีแล้ว ยังช่วยประหยัดการใช้พลังงานในบ้านได้อีกทางหนึ่งจนอาจไม่ต้องใช้เครื่อง ปรับอากาศเป็นประจำ

 

Write by : Khun Chotiwit Phongsermphol




ดู 27 | เริ่ม 2 ธ.ค. 2556 23:36:43 | IP 124.122.89.2xx